แก้ไข error จากการใช้คำสั่ง apachectl

ตามหัวข้อเลยครับ หลายท่านคงจะเคยใช้คำสั่ง apachectl stop, start, restart ซึ่งเป็นคำสั่งให้ apache ทำงานใน FreeBSD แล้วมีข้อความ error ขึ้นมาประมาณนี้ such file or directory: Failed to enable the 'httpready' Accept Filter ไม่ต้องตกใจนะครับ วิธีแก้ไขง่ายนิดเดียวตามนี้

# kldload accf_http
# vi /boot/loader.conf แล้วพิมพ์บรรทัดนี้เข้าไป accf_http_load="YES"

ทำการบันทึก และหากมีการรีสตาร์ทเซิฟเวอร์ครั้งต่อไปก็จะไม่มี error เหล่านี้ขึ้นมากวนใจแล้วครับ

คำสั่งจัดการ inetd ใน FreeBSD

บันทึกกันลืมนะครับ ในกรณีที่ต้องมีการจัดการกับ inetd service บนเซิฟเวอร์ที่รันด้วยระบบปฏิบัติการ FreeBSD แต่ไม่ต้องการรีสตาร์ทเซิฟเวอร์ ให้ใช้คำสั่งดังนี้นะครับ
#/etc/rc.d/inetd reload หรือจะ
#killall inetd
#inetd -Ww ก็ได้นะครับ

หากต้องการให้ inetd ทำงานทุกครั้งที่มีการเปิดเครื่องให้เพิ่มบรรทัดข้างล่างนี้เข้าไปใน /etc/rc.conf
inetd_enable="YES"

เพียงเท่านี้ก็ไม่ต้องรีสตาร์ทเซิฟเวอร์บ่อย ๆ นะคร๊าบบบบ

How to Install and Configure Webmin (Web-based Interface) base on FreeBSD 8.0

สวัสดีชาวโอเพ่นซอร์สทุกท่านนะครับ หลังจากไม่ได้เข้ามานานเลย วันนี้ไม่ขอเกริ่นยาว สำหรับผู้ที่ไม่สะดวกที่จะรีโมทเข้ามายังเครื่องแม่ข่าย หากเป็นผม ผมคงต้องเลือกใช้ Web-based Interface แน่นอนครับ ในที่นี้ผมใช้ Webmin (Install with FreeBSD 8.0) ผมขออนุญาติบันทึกกันลืมก็แล้วกันครับ
1. Upgrade port tree.
#portsnap fetch update (อัปพอร์ตให้เป็นปัจจุบันก่อนนะครับ)

2. Install webmin with port (ตามคำสั่งด้านล่างนี้เลยครับ)
#cd /usr/ports/sysutils/webmin
#make install clean (หลังจากเข้าไปใน port tree แล้วก็สั่ง install เลยครับ จิบกาแฟรอสักครู่ 555+)

3. Configure rc.conf (สั่งให้ webmin ทำงานทุกครั้งที่เปิดเครื่อง)
#vi /etc/rc.conf
webmin_enable="YES" <-- เพิ่มบรรทัดนี้เข้าไปครับ

4. ขั้นตอนสุดท้าย เราจะทำการ Setup script ให้กับ webmin ด้วยคำสั่งด้านล่างนี้นะครับ
#/usr/local/lib/webmin/setup.sh

ผลลัพธ์จากการใช้คำสั่งดังกล่าว (ทำตามขั้นตอนในหน้าจอได้เลยครับ)
***********************************************************************
* Welcome to the Webmin setup script, version 1.420 *
***********************************************************************
Webmin is a web-based interface that allows Unix-like operating
systems and common Unix services to be easily administered.

Installing Webmin in /usr/local/lib/webmin ...

***********************************************************************
Webmin uses separate directories for configuration files and log files.
Unless you want to run multiple versions of Webmin at the same time
you can just accept the defaults.

Log file directory [/var/log/webmin]: [Press Enter]

***********************************************************************
Webmin is written entirely in Perl. Please enter the full path to the
Perl 5 interpreter on your system.

Full path to perl (default /usr/bin/perl): [Press Enter]

Testing Perl ...
Perl seems to be installed ok

***********************************************************************
Operating system name: FreeBSD
Operating system version: 8.0

***********************************************************************
Webmin uses its own password protected web server to provide access
to the administration programs. The setup script needs to know :
- What port to run the web server on. There must not be another
web server already using this port.
- The login name required to access the web server.
- The password required to access the web server.
- If the webserver should use SSL (if your system supports it).
- Whether to start webmin at boot time.

Web server port (default 10000): [Press Enter]
Login name (default admin): [Press Enter]
Login password: [type password]
Password again:
Use SSL (y/n): y
***********************************************************************
Creating web server config files..
..done

Creating access control file..
..done

Creating start and stop scripts..
..done

Copying config files..
..done

Changing ownership and permissions ..
..done

Running postinstall scripts ..
..done

เป็นอันเสร็จสิ้นการติดตั้ง webmin แล้วครับ ส่วนวิธีการเรียกใช้งานก็สามารถเรียกผ่าน Browser ได้เลยครับ

https://your-domain.com:10000/
หรือจะเรียกเป้นไอพีเลยก็ได้ครับ
https://your-server-ip:10000/

Enjoy...

HP DL120 G5 and DL380 G5 VS FreeBSD 7.2 (Part I)

สวัสดีครับพี่น้อง ไม่ได้เข้ามาอัปเดรตบล็อคตัวเองซะนานเลย ช่วงนี้ได้ Server มาใหม่สามตัว เป็น HP DL120 G5 หนึ่งตัว และ HP DL380 G5 อีกสองตัว ก็เลยจับลง FreeBSD 7.2 ซะให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย ผลการติดตั้ง ปรากฏว่าเวิร์กครับ เจ้า FreeBSD 7.2 สามารถมองเห็น RAID Controller ของทั้งสองรุ่นนี้ได้อย่างไม่มีปัญหา หลังจากติดตั้งเสร็จก็จัดการ Update ports ด้วยคำสั่งนี้ครับ

#cd /usr/ports/net/cvsup-without-gui
#make install && make clean
#rehash
จากนั้นทำการ Synchronize ports index กับ cvsup server ที่ทาง FreeBSD Engineer หรือ Mirror ได้จัดเตรียมไว้ให้ ด้วยคำสั่งนี้ครับ

#/usr/local/bin/cvsup -g -L 2 -h cvsup2.freebsd.org /usr/share/examples/cvsup/ports-supfile
จากนั้นเคาะ enter 1 ครั้ง แล้วอดใจรอสักครู่ (ช้าหรือเร็วขึ้นอยู่กับ Bandwith ท่านนะครับ) เมื่อเรียบร้อยทุกอย่างแล้ว เราก็สั่งให้ FreeBSD fetch index เพื่อทำการปรับปรุง pkg ต่าง ๆ ใน ports ให้เราด้วยคำสั่งนี้

#cd /usr/ports && make fetchindex
ก็เป็นอันเสร็จสิ้นกระบวนการ update ports เรียบร้อยแล้วครับ เดี๋ยวตอนต่อไปผมจะ guide เรื่องของการติดตั้ง FAMP บน FreeBSD 7.2 ให้สาวก FreeBSD ได้เป็นแนวทางในการ Config web server. สำหรับบทความนี้แค่นี้ก่อนนะครับ
Good luck && Enjoin.

Update ports on FreeBSD

เราต้องมันใจกก่อนนะครับว่า Server เราติดตั้ง ports tree แล้ว
แต่ถ้ายังไม่มีการติดตั้ง ports tree ก็ทำได้โดย

ใส่แผ่น boot FreeBSD

#/stand/sysinstall

เลือก configure

เลือก Distributions

เลือก ports

สั่ง Install

พร้อมแล้วก็มาลุยกันเลยครับ

Step.1 #cd /usr/ports/net/cvsup

Step.2 #make install && make clean

รอสักครู่ แล้ว copy และ edit ไฟล์ ports-supfile ดังนี้

Step.3 #cp /usr/share/examples/cvsup/ports-supfile /tmp

Step.4 #cd /tmp

Step.5 #pico ports-supfile

ให้แก้ดังนี้ (ตัวอย่าง ต้องการจะ update Perl5.8.5 => 5.8.7)
default host=cvsup1.freebsd.org
ใส่ # หน้า ports-all
แล้วเอา # หน้า ports ที่ต้องการ up ออก เช่น #ports-lang => ports-lang
กด Control+X เพื่อบันทึก แล้วตอบ Y ออกมาเลยครับ

Step.6 logout แล้ว login ใหม่
cd /tmp
cvsup ports-supfile

นั่งจิบกาแฟรอก่อนแล้วกันครับ จากนั้นค่อยเข้าไปที่ยังพาธของโปรแกรมที่จะติดตั้งแล้วสั่ง
#make install clean
เป็นอันเสร็จขั้นตอนครับ

ที่มา : thaibsd.com
-----------------------------------
Enjoy && Good Luck.

FreeBSD with Disk Quotas(Base on 6.2)

โดยพื้นฐานแล้ว Kernel ของ FreeBSD จะยังไม่รองรับการทำงานของ Disk Quotas นะครับ เพราะฉะนั้นเราต้องทำการ recompile kernel ให้เจ้า FreeBSD ซะก่อน ซึ่งในขั้นตอนของการ recompile kernel ให้เราเพิ่มบรรทัด options QUOTA ต่อท้ายเข้าไปด้วย รอสักประมาณครึ่งชั่วโมง(แล้วแต่ความแรงของเครื่อง) เมื่อเสร็จแล้วก็ตาม Step กันเลย...

Step1. สั่งให้ quota ทำงานทุกครั้งที่เปิดเครื่อง
#echo 'enable_quotas="YES"' >> /etc/rc.conf
#echo 'check_quotas="YES"' >> /etc/rc.conf

Step2. แก้ไข /etc/fstab เพื่อสั่งให้ Disk Quota มีผลกับ label นั่น ๆ
#pico /etc/fstab
เปลี่ยนบรรทัด
/dev/ad0s1f /usr ifs rw 2 2
เป็น
/dev/ad0s1f /usr ifs rw,userquota,groupquota 2 2
แล้ว save

Step3. สร้างไฟล์ rc.local และเพิ่มสองบรรทัดนี้เข้าไป
#touch /etc/rc.local
#echo 'quotacheck -a' >> /etc/rc.local
#echo 'quotaon -a' >> /etc/rc.local

Step4. reboot

คำสั่งที่จำเป็นในการ manage quota
check quota #quota -v username

edit quota #edquota -u username

ขั้นตอนสุดท้ายก็ลอง ftp ข้อมูลขึ้นไปที่ server แล้ว check ดูว่า Quato ทำงานหรือเปล่า

Finish & Enjoy.....
แปลจาก freebsd.org

Config SSL+Apache22 (Base on FreeBSD6.2)

Step1. #cd /usr/local/etc/apache22

ทำการสร้าง key สำหรับ ssl ตาม Step 2-4
Step2. #/usr/bin/openssl genrsa -out /usr/local/etc/apache22/server.key 1024

Step3. #/usr/bin/openssl req -new -days 365 -key /usr/local/etc/apache22/server.key -out /usr/local/etc/apache22/server.csr

Step4. #/usr/bin/openssl x509 -in /usr/local/etc/apache22/server.csr -out /usr/local/etc/apache22/server.crt -req -signkey /usr/local/etc/apache22/server.key -days 365

เปลี่ยนโหมดของไฟล์ต่าง ๆ ดังนี้ เพื่อความปลอดภัย
Step5. #chmod 400 server.*

Step6. แก้ไขไฟล์ /usr/local/etc/apache22/httpd.conf
# Secure (SSL/TLS) connections
Include etc/apache22/extra/httpd-ssl.conf <-- เอา # ออก

Step7. สั่ง restart apache
#apachectl restart

Step8. เพิ่มคำสั่งให้ apache start service ssl ด้วย
#echo 'apache22ssl_enable="YES"' >> /etc/rc.conf

Finish & Enjoy.....
ที่มา : google.co.th

บันทึกการติดตั้ง PHP5 บน FreeBSD6.2

เป็นการติดตั้งผ่าน port tree เพราะฉะนั้นท่านต้องต่อเน็ตไว้ด้วยนะคร๊าบ...

Step1. Login with root & #cd /usr/ports/lang/php5

Step2. #make install (After your enter please wait...)

Step3. Option for php5 เลือก APACHE Build Apache module ด้วยนะครับ

###ติดตั้ง PHP5-Extensions
Step1. #cd /usr/ports/lang/php5-extensions

Step2. #make install (After your enter please wait...)

Step3. พอมาถึงหน้าจอ Option for php5-extensions ท่านสามารถที่จะเลือก extensions ต่าง ๆ ได้ตามต้องการ(ขึ้นอยู่กับการเขียนโปรแกรมของแต่ละท่านนะครับ) ระยะเวลาในการติดตั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับว่าท่านเลือก extensions ไว้มากน้อยเพียงใด และความแรงของเน็ตก็มีส่วน...

###ทดสอบการทำงานของ PHP
Step1. #cd /usr/local/www/data (DocumentRoot ของแต่ละท่านอาจจะกำหนดไว้ไม่เหมือนกัน)

Step2. #vi test.php

Step3. #เขียน script php เพื่อตรวจสอบ version และ extensions ต่าง ๆ ด้วยคำสั่ง phpinfo();

Step4. ทดสอบเรียกเข้าไปยัง server จากเครื่องลูกข่ายโดยใช้ Browser ทีท่านถนัด
http://your server ip/test.php

##### Good Luck & Enjoy #####

บันทึกการติดตั้ง MySQL บน FreeBSD6.2

ขั้นตอนการติดตั้งที่จะแนะนำต่อไปนี้ เครื่อง Server ท่านต้องต่ออินเตอร์เน็ตไว้ก่อนนะครับ เพราะจะเป็นการติดตั้งผ่าน port tree ที่มากับระบบปฏิบัติการ FreeBSD
Step1. #cd /usr/ports/database/mysql50-server

Step2. ใช้คำสั่งติดตั้งพร้อมกำหนดค่าเริ่มต้นต่าง ๆ ดังนี้
#make \
#WITH_CHARSET=tis620 \
#WITH_XCHARSET=all \
#WITH_COLLATION=tis620_thai_ci \
#WITH_OPENSSL= yes \
#WITH_PROC_SCOPE_PTH=yes \
#install clean
enter แล้วรอสักครู่

Step3. สั่งให้ MySQL ทำงานทุกครั้งที่มีการบูตเครื่อง ด้วยคำสั่งนี้
#echo "mysql_enable="YES"" >> /etc/rc.conf

Step4. Reboot Server.

Tips...
เพื่อความปลอดภัยเมื่อติดตั้ง MySQL เรียบร้อยแล้วควรเปลี่ยนรหัสผ่านให้กับ root ด้วย ซึ่ง root จะเป็น username ที่มีสิทธิ์สูงสุดใน MySQL คำสั่งเปลี่ยนรหัสผ่าน ดังนี้
#mysqladmin -u root -p xxx (เมื่อ xxx คือรหัสผ่านที่ท่านต้องการใส่)

##### Good Luck and Enjoy #####

บันทึกการติดตั้ง Web Server บน FreeBSD6.2

Web Server เป็นชื่อเรียกของ Service ซึ่งเป็นซอฟแวร์ที่เน้นการทำงานทางด้านเซิร์ฟเวอร์เป็นหลัก และโปรแกรมที่ทำหน้าที่เป็น Web Server ก็มหลายตัวด้วยกันนะครับ ทั้งที่ฟรี และไม่ฟรี เช่น apache ซี่งเป็นซอฟร์แวร์ของโอเพ่นซอร์ส และ IIS ซึ่งเป็นซอฟร์แวร์ของไมโครซอฟร์(ตัวนี้ต้องซื้อ) แต่ในที่นี้ผมจะขอแนะนำการติดตั้ง apache ซึ่งรันบนระบบปฏิบัติการ FreeBSD.

Step1. Login with root & #cd /usr/ports/distfiles

Step2. #fetch http://lion.bus.ubu.ac.th/oss/FreeBSD/FAMP62.tar.gz

Step3. #gzip -cd FAMP62.tar.gz |tar xvf - (ระหว่าง xvf กับ - ต้องวรรคด้วย)

Step4. #cd /usr/ports/www/apache22

Step5. #make install(Please wait...)

###Configuration Apache22
Step1. #vi /usr/local/etc/apache22/httpd.conf

Step2. Edit and add this line to httpd.conf file
Directory index.php index.html
AddDefaultCharset tis-620
AddType application/x-httpd-php .php
AddType application/x-httpd-php-source .phps

Step3. Save and exit

Step4. #apachectl restart

###Config apache with auto start service
Step1. #echo "apache22_enable="YES"" >> /etc/rc.conf

Step2. #restart server

##### Good Luck and Enjoy #####

คำสั่ง reconfigure ของ Squid

ใน FreeBSD จะมีโปรแกรมตัวหนึ่งที่ชื่อว่า Squid นะครับ ทำหน้าที่เป็น Web Cache เพื่อเก็บข้อมูลเว็บต่าง ๆ ที่เครื่อง Client ได้เรียกออกไปใช้งาน แต่ถ้าสักวันหนึ่งเราต้องมานั้งแก้ config ของไฟล์ squid.conf เราไม่จำเป็นต้อง restart เครื่อง server ใหม่ก็ได้ครับ คำสั่งที่ว่านี้มีรูปแบบการใช้งานดังนี้ครับ

#squid -k reconfigure

เพียงเท่านี้เราก็สามารถใช้งาน Squid ได้อย่างต่อเนื่องโดยที่ไม่ต้องสั่ง Restart Server ครับ

สำหรับมือใหม่ที่ใช้ FreeBSD

ครับผมกลับมาเจอกันอีกครั้งนะครับ หลังจากที่ไม่ได้มาอัปเดรตบทความกันหลายวันเลยทีเดียว สำหรับวันนี้ผมอยากจะแนะนำผู้ที่กำลังหันมาใช้ระบบปฏิบัติการ FreeBSD เป็น Network Operating system หรือแปลเป็นไทยกคือระบบปฏิบัติการที่ใช้ในการบริหารจัดการระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์นั่นเองนะครับ ใน FreeBSD จะมีอยู่หนึ่งไฟล์ ที่ใช้สำหรับเขียน script เพื่อสั่งให้ระบบ start service ต่าง ๆ ไฟล์นั่นก็คือ /etc/rc.conf สำหรับมือใหม่แล้วนั่น อาจจะยังไม่ทราบถึงผลที่จะตามมา เนื่องจากไฟล์นี้หากมีการพิมพ์(config) ตก หรือผิดหลักไวยากรณ์ ระบบก็จะไม่สามารถบูตเข้ามาทำงานได้ แต่ FreeBSD ยังใจดี มีทางออกให้เรา วิธีแก้ปัญหานี้ มีขั้นตอนดังนี้ครับ
Step 1. บูตเครื่องขึ้นมาใหม่อีกครั้ง

Step 2. พอระบบบูตขึ้นมาถึงบรรทัดที่เขียนว่า /bin/sh ให้ enter เข้าไป ระบบจะแสดงเครื่องหมาย # (รอรับคำสั่ง)

Step 3. ใช้คำสั่ง #mount -u

Step 4. ใช้คำสั่ง #mount -a

Step 5. vi /etc/rc.conf แล้วเข้าไปแก้ไข และเช็คความถูกต้องการที่จะบันทึกแล้วก็รีบูตเซิฟเวอร์อีกครั้งหนึ่ง

เป็นอันเสร็จขั้นตอนการแก้ปัญหา FreeBSD บูตไม่ขึ้น ลองดู...

Advanced Web Statistics

สวัสดีครับ หากท่านเป็นคนหนึ่งที่ต้องดูแลเว็บไซต์ให้กับหน่วยงานหรือองค์กรต่าง ๆ สิ่งหนึ่งที่ขาดเสียมิได้ คือการทำ Counter เพื่อดูจำนวนการเข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ของท่าน แต่ในปัจจุบันเราไม่ต้องมาเสียเวลานั่งเขียน Script เองแล้วครับ(เวลามันน้อย ไม่ใช่ขี้เกียจนะก๊าบ) เพราะมีโปรแกรมที่ทำงานคล้าย ๆ กับที่ผมได้กล่าวมาข้างต้น ที่ใช้กันในปัจจุบันก็มีหลายตัวนะครับ เช่น Webalizer, HitBox เป็นต้น แต่วันนนี้ผมจะขอแนะนำการติดตั้ง AWStats ซึ่งเป็น OpenSource สามารถใช้งานได้ฟรี(เจ๋งม๊ากมาก) และได้รับความนิยมมากในปัจจุบัน ในการทดสอบการติดตั้งครั้งนี้ ผมใช้ FreeBSD5.4 เป็นฐานปฏิบัติการนะครับ
System Requirement.
1.สำหรับเครื่องที่จะติดตั้ง AWStats เราต้องติตตั้ง Apache+PHP เพื่อทำให้เครื่องนั้นให้บริการ Web Server ก่อนนะครับ ส่วน MySQL ไม่ต้องครับเนื่องจาก AWStats จะไปอ่านค่าต่าง ๆ จาก httpd-access.log
2. หากต้องการติดตั้งผ่าน ports ต้องเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตไว้ด้วยนะครับ(เป็นวิธีที่ผมใช้ในการทดลองครั้งนี้)
--พร้อมแล้วก็ลุยกันเลยครับ--
Step 1. #cd /usr/ports/www/awstats (ใช้คำสั่ง cd เพื่อเข้าไปยัง directory ดังกล่าว)

Step 2. #make install (ใช้คำสั่ง make install เพื่อติดตั้ง awstats)
---รอสักครู่ใหญ่ ๆ เพราะ FreeBSD กำลังไปดาวน์โหลด packet มาติดตั้ง---

Step 3. เข้าไปแก้ไขไฟล์ httpd.conf ที่ /usr/local/etc/apache2 แล้วเพิ่ม Script ตามที่ระบบแนะนำหลังติดตั้งเสร็จ ดังนี้
Alias /awstatsclasses "/usr/local/www/awstats/classes/"
Alias /awstatscss "/usr/local/www/awstats/css/"
Alias /awstatsicons "/usr/local/www/awstats/icons/"
ScripAlias /awstats/ "/usr/local/www/awstats/cgi-bin/"
(เพิ่มต่อท้ายบรรทัดที่เขียนว่า Alias /icons/ "/usr/local/www/icons/" นะครับ)

---ถัดมา เพิ่ม Script เหล่านี้ต่อเข้าไป---


---ถัดมา ค้นหาคำว่า .cgi แล้วเอาเครื่องหมาย # ออก และเพิ่ม .pl ต่อท้ายเข้าไป ดังนี้---
AddHandler cgi-script .cgi .pl
---เรียบร้อยแล้วก็บันทึก แล้วออกมาเลยครับ---
***หลังการแก้ไข Step 3 อย่าลืม restart service apache นะครับ***
#apachectl restart(แล้ว enter ไปเลยครับ)

Step 4. #cd /usr/local/www/awstats/cgi-bin (enter เข้าไปเลยครับ อย่ารอช้า อิอิ..)

Step 5. #cp awstats.model.conf awstats.YourIPAddress.conf
---ใช้คำสั่ง cp เพื่อ copy ไฟล์(ถ้าใน windows ก็คล้าย ๆ กับ Save as ครับ) ในขั้นตอนนี้เราต้องใส่ ip address ของเครื่องเราลงไป เช่น awstats.192.168.1.2.conf เป็นต้น---

Step 6. ทำการแก้ไขไฟล์ awstats.YourIPAddress.conf โดยใช้ editor ที่ท่านถนัดแล้วกันครับ(ผมใช้ vi)
---แก้ไขค่าต่าง ๆ ให้สอดคล้องกับเครือข่ายที่ท่านใช้งานอยู่ ดังนี้---
LogFile="/var/log/httpd-access.log"
SiteDomain="YourIpAddress"
---เรียบร้อยแล้วบันทึก ออกมาเลยครับ---

Step 7. #cd /usr/local/www/awstats/cgi-bin

Step 8. #./awstats.pl -config=YourIpAddress -update (ใช้คำสั่ง ./awstat.pl ตามด้วยพารามิเตอร์ต่าง ๆ เพื่อสร้างรายงานจากไฟล์ httpd-access.log) ระหว่างนี้ก็จิบกาแฟรอไปก่อนครับ

Step 9. #cd /usr/local/www/awstats/cgi-bin

Step 10. #chmod 755 awstats.pl

Step 11. ใช้เครื่องลูกข่ายทดสอบการทำงานโดยเรียกไปที่ ip ของเซิร์ฟเวอร์ที่เราได้ติดตั้ง awstats ไปเมื่อสักครู่ เช่น http://192.168.1.2/awstats/awstats.pl

หากทดสอบการใช้งานแล้วมี error แสดงออกมาก็แก้ปัญหาตามที่ error นั่นแหล่ะครับ
ติดตั้งครั้งแรกอาจจะงง ๆ สักหน่อยนะครับ แต่ก็ลองดู....(รับรอง awstats เจ๋งจริง Confirm)

• อ้างอิงจาก http://www.freebsdmadeeasy.com/tutorials/web-server/analyze-apache-web-server-logs-with-awstats.php

รู้จักกับ CVSUP

รายละเอียดตาม link ด้านล่างนี้เลยครับ

• http://www.thaibsd.com/webboard/show.php?Category=thaibsd&No=57 (เว็บเพื่อนบ้านผมเองครับ เข้าเป็นประจำ)
  

Compile Kernel

การ Compile kernel คือการทำให้ระบบปฏิบัติการของเราทำงานภายใต้สภาวะแวดล้อมของ hardware ที่มีอยู่ให้เกิดประสิทธภาพมากที่สุด และทำให้การบูตทำงานได้เร็วขึ้น ใช้ memory น้อย และเราสามารถที่จะทำให้ระบบปฏิบัติการของเรารองรับการทำงานกับ Hardware ใหม่ ๆ ได้ด้วย

การ Compile kernel ด้วยวิธีนี้น่าจะใช้ได้กับ FreeBSD ทุก ๆ เวอร์ชั่นนะครับ เพราะผมลองบน FreeBSD5.4 จนมาถึง FreeBSD6.2 ก็ยังใช้วิธีนี้ได้อยู่ ขั้นตอนการ Compile kernel มีดังนี้ครับ

Step 1. ที่ FreeBSD Server ทำการ Login ด้วย root นะครับ

Step 2. #cd /usr/src/sys/i386/conf (Step นี้หากไม่มี Floder ตามนี้ให้ดูวิธีแก้ปัญหาได้ที่นี้)

Step 3. #cp GENERIC MYKERNEL (เมื่อ GENERIC คือ Defualt kernel ที่ระบบติดตั้งมาให้ และ MYKERNEL คือ kernel ที่เราจะ compile ขึ้นมาใหม่)

Step 4. #vi MYKERNEL

• หาบรรทัดที่เขียนว่า ident GENERIC แล้วให้แก้เป็น ident MYKERNEL
• เพื่ม Options ต่าง ๆ ตามใจชอบ ต่อท้ายในส่วนของ Options
• ทำการบันทึกไฟล์

Step 5. #config MYKERNEL

Step 6. #cd ../compile/MYKERNEL

Step 7. # make depend; make; make install
เคาะ enter ครั้งหนึ่ง จากนั้นก็รอ(ต้มมาม่ากินรอ)จนกว่าระบบจะ compile เสร็จ แล้วรีสตาร์ทระบบด้วยคำสั่ง reboot นะครับ

Step 8. หลังจาก reboot เข้ามาแล้วให้ตรวจสอบว่าได้ Kernel ตัวใหม่ขึ้นมาทำงานแล้วยัง คำสั่งที่ใช้ตรวจสอบคือ uname -a

• FreeBSD yourhostname.yourdomainname 6.2-RELEASE FreeBSD 6.2-RELEASE #0: Thu Dec 20 12:01:20 ICT 2007 root@yourhostname.yourdomainname:/usr/src/sys/i386/compile/MYKERNEL i386 (หลังจาก Compile)

• FreeBSD yourhostname.yourdomainname 6.2-RELEASE FreeBSD 6.2-RELEASE #0: Thu Dec 20 12:01:20 ICT 2007 root@yourhostname.yourdomainname:/usr/src/sys/i386/compile/GENERIC i386 (ก่อน Compile)

แนะนำว่าก่อนทำการ Compile ให้ใช้คำส่ง uname -a ตรวจสอบดูก่อน หลังจากทำ Step 1-7 เสร็จค่อยสั่ง uname -a ดูอีกครั้งจะเห็นความแตกต่าง จุดสังเกตให้เราสังเกตที่คำว่า GENERIC จะเปลี่ยนเป็น MYKERNEL นั่นหมายถึงเราได้ Kernel ตัวใหม่ขึ้นมาใช้แล้ว ลองทำดูนะครับ...

Backup Database ด้วย mysqldump

หลายท่านอาจจะเคยเจอปัญหาเหมือนผมนะครับ เวลาเราจะ backup database แต่ว่าฐานข้อมูลมีขนาดโตเกินไป ถ้าจะใช้ phpMyAdmin ทำการ export ออกมาก็ error ซะก่อน(ว้าแย่จัง) แต่ไม่เป็นไรครับทุกปัญหาต้องมีทางออก พร้อมแล้วยังครับ ถ้าพร้อมแล้วเรามาแก้ปัญหานี้ไปพร้อม ๆ กันเลย(ผมลองบน FreeBSD นะครับ)

Step 1. เดินไปที่ห้อง Server แล้ว Login ด้วย root (เครื่องที่ต้องการจะBackup Database นะครับ)

Step 2. เมื่อ Login เป็น root เข้ามาแล้วให้ใช้คำสั่ง # mysqldump db1 > db1.sql -u root -p จากนั้นก็ enter ระบบจะถามรหัสผ่านของ mysql root ก็ให้กรอกรหัสลงไปนะครับ (db1 คือฐานข้อมูลที่ต้องการ Backup ส่วน db1.sql คือชื่อฐานข้อมูล(sql file) ที่ระบบจะ dump ออกมา) รอสักครู่เราจะได้ sql file ออกมา(sql file จะถูกบันทึกลงไปใน directory ที่เรากำลังทำงานอยู่) เป็นอันเสร็จเสร็จการ Backup Database

Step 3. หลังจากได้ sql file มาแล้ว การนำ sql file ไปใช้งาน(restore) ให้ใช้คำสั่งต่อไปนี้ครับ # mysqldump db1 < db1.sql -u root -p จากนั้น enter ก็ให้กรอกรหัสผ่านของ mysql root ลงไป รอสักครู่ ก็เป็นอันเสร็จสิ้นขั้นตอนการ Restore Database ด้วยคำสั่ง mysqldump

ลองดูนะครับ...